แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มชช. แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มชช. แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

มชช.อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ปี ๒๕๕๖

๑) ผู้นำชุมชน/ท้องถิ่น
ชื่อ -สกุล นายนรงค์ เจ๊ะนาแว
หมายเลขประจำตัวประชาชน 3960900007419
ปีงบประมาณที่สมัคร 2556
ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
ที่อยู่ 5/5 หมู่ที่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน

๒) รายชื่อชุมชน
ชื่อชุมชน บ้านเกียร์
ปีงบประมาณที่สมัคร 2556
สถานที่ทำการเครือข่าย หมู่ที่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน
ชื่อผู้ประสานงานเครือข่าย นายนรงค์ เจ๊ะนาแว

๓) กลุ่ม/องค์กรชุมชน
ชื่อกลุ่ม/องค์กร กลุ่มสตรีบ้านเกียร์
ปีงบประมาณที่สมัคร 2556
สถานที่ทำการกลุ่ม หมู่ที่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน
ชื่อผู้ประสานงานกลุ่ม นางสุนีย์ เดชบุญ

๔) เครือข่ายองค์กรชุมชน
ชื่อเครือข่าย ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนตำบลเกียร์
ปีงบประมาณที่สมัคร 2556
สถานที่ทำการเครือข่าย หมู่ที่ 1 ต.เกียร์ อ.สุคิริน
ชื่อผู้ประสานงานเครือข่าย นายนรงค์ เจ๊ะนาแว

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

ระบบมาตรฐานงานชุมชน

หลักการสำคัญ
1. การมีส่วนร่วมของชุมชน ชุมชนเป็นเจ้าของ ชุมชนเป็นผู้รับประโยชน์
2. ชุมชนมีความสมัครใจในการพัฒนาตนเอง
3. เป็นกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง
4. เน้นความยืดหยุ่น สอดคล้อง เหมาะสมกับชุมชน
5.ความร่วมมือและการยอมรับเป็นเครื่องมือเชื่อมประสานการทำงานของภาคีการพัฒนา
6 หลักการสร้างสังคมคุณภาพ เพิ่มคุณค่า
7. สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีจิตสาธารณะ มีจริยธรรม คุณธรรม



วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้นำชุมชน กลุ่ม/องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชนและชุมชน ใช้เป็นเครื่องมือสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปสู่ความเข้มแข็ง
2.เพื่อให้ภาคีการพัฒนาใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมประสานการทำงานการพัฒนาศักยภาพชุมชนโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง


ลักษณะมาตรฐาน
ลักษณะมาตรฐานงานชุมชน ทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย “ด้าน” กับ”องค์ประกอบที่แสดงถึงคุณลักษณะที่ดีซึ่งสะท้อนภาวะผู้นำของผู้นำชุมชน และตัวชี้วัดความเข้มแข็งของกลุ่ม/องค์กรชุมชน  เครือข่ายองค์กรชมชน และชุมชน ซึ่งประเภทมาตรฐานงานชุมชน  ทั้ง  4  ประเภท มีดังนี้

ประเภทที่  1  มาตรฐานผู้นำชุมชน ประกอบด้วยภาวะผู้นำ 3  ด้าน 15  องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านการบริหารตนเอง  มี 4 องค์ประกอบ คือ
    1.1 บุคลิกภาพดี: แสดงออกทางกาย วาจา ทำให้คนรอบข้างประทับใจ
    1.2 ความรู้ ความสามารถ: พัฒนาตนเองจนเกิดความเชี่ยวชาญ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นได้
    1.3 คุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม: ปฏิบัติตามบรรทัดฐานอัดนงามของสังคมอย่างสม่ำเสมอ
    1.4 วินัยในตนเอง: สามารถใช้เวลาของตนเองและรับผิดชอบต่อชีวิตส่วนตัวอย่างเหมาะสมตามอัตภาพ
2) ด้านการบริหารสังคม มี 4 องค์ประกอบ คือ
    2.1 มนุษย์สัมพันธ์: รักษาความสัมพันธ์หรืออันเกื้อกูลระหว่างกันกับบุคคลประเภทต่าง ๆ
    2.2 ความเป็นประชาธิปไตย: ประสานความเข้าใจ ประสานการรวมกลุ่ม ประสานกิจกรรม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
    2.3 การประสานงานที่ดี: สามารถปรสานความเข้าใจ ประสานกิจรรม ประสานการวมกลุ่ม ก่อให้เกิดประโยชน์ที่เกื้อกูลกัน
    2.4 การเป็นที่ปรึกษาที่ดี: สามารถแนะนำที่เหมาะสมกันในการแก้ไขปัญหา
3) ด้านการบริหารงาน  มี 7 องค์ประกอบ คือ
    3.1 การวางแผน: มีวิสัยทัศน์ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมในและภายนอกอย่างรอบคอบ รอบด้าน
    3.2 การแก้ไขปัญหา
    3.3 การบริหารงบประมาณ การเงิน บัญชี
    3.4 การพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
    3.5 การควบคุมและประเมินผล
    3.6 การสร้างและการพัฒนาทีม
    3.7 ความรับผิดชอบต่องาน: กล้าแสดงตนเป็นเจ้าของผลงาน เมื่อพบว่างานเกิดความผิดพลาด

ประเภทที่  2  มาตรฐานกลุ่ม/องค์กรชุมชน ประกอบด้วยลักษณะความเข้มแข็ง  4  ด้าน  14 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านโครงสร้างและกระบวนการทำงาน กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินงานได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีโครงสร้างและกระบวน การทำงานที่แสดงถึงการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อเกื้อหนุนให้เกิดการมี ส่วนร่วมของสมาชิกในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่ม/องค์กรชุมชนให้ไปสู่ ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง  มี  4 องค์ประกอบคือ
    1.1 คณะกรรมการ
    1.2 ระเบียบข้อตกลง
    1.3 สมาชิก
    1.4 สถานที่ทำงานกลุ่ม
    1.5 กระบวนการทำงาน
2) ด้านการบริหารเงินทุนและทรัพยากร  กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการบริหารเงินทุนและ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และโปร่งใส สำหรับด้านนี้แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบคือ
    2.1 การจัดหาเงินทุนและทรัพยากร
    2.2 การจัดสรรและใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร
    2.3 การควบคุมการใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร
3) ด้านการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร กลุ่ม/องค์กรชุมชนที่ดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการเสริมสร้างการ เรียนรู้เพื่อพัฒนากลุ่ม/องค์กรชุมชนอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงกับ กลุ่ม/องค์กรอื่นๆ ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น  3 องค์ประกอบคือ
    3.1 การพัฒนาการเรียนรู้
    3.2  การพัฒนาทุนทางสังคม
    3.3  การเชื่อมโยงกับกลุ่ม/องค์กร
4) ด้านผลประโยชน์ต่อสมาชิกและชุมชน กลุ่ม/องค์กรชุมชนทีดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐานควรจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์ ต่อสมาชิกและชุมชนอย่างทั่งถึงเป็นธรรม และตอบสนองความต้องการตามระเบียบที่เห็นพ้องต้องกันของสมาชิก ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น ๓ องค์ประกอบคือ
    4.1 การดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาของสมาชิก
    4.2 การแบ่งปันผลประโยชน์ต่อสมาชิก
    4.3 การจัดสวัสดิการต่อสมาชิกและชุมชน

ประเภทที่ 3  มาตรฐานเครือข่ายองค์กรชุมชน ประกอบด้วยลักษณะความเข้มแข็ง 4  ด้าน  17 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านโครงสร้างและกระบวนการทำงาน  คุณลักษณะสำคัญของโครงสร้างและกระบวนการทำงานคือ มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน มีกระบวนการทำงานที่เชื่อมโยงไปสู่ภารกิจ และเป้าประสงค์ขององค์กรสมาชิก เนื่องจากคุณลักษณะข้างต้น จะช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายไปสู่ผลสำเร็จร่วมกันได้ในที่สุด ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ คือ
    1.1 องค์กรสมาชิก
    1.2 คณะกรรมการ/แกนนำ
    1.3 การบริหารจัดการ
2) ด้านการบริหารงบประมาณและทรัพยากร มีการบริหารงบประมาณและทรัพยากร ทั้งที่เป็นความรู้และบุคลากร โดยยึด ๔ หลักการสำคัญ กล่าวคือ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีวินัยในการหาและจัดสรรรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้ มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรสมาชิกสำหรับด้านนี้แบ่ง เป็น 5 องค์ประกอบคือ
    2.1 โปร่งใส ตรวจสอบได้
    2.2  ความมีวินัยทางการบริหารเงินทุน
    2.3 ความมีประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุน
    2.4 การบริหารภูมิปัญญา/ฐานความรู้
    2.5 การบริหารทรัพยากรบุคคล
3) ด้านการพัฒนาขีดความสามารถของเครือข่าย มีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสั่งสมองค์ความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง สามารถนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาขีดความสามารถภายในองค์กรสมาชิกหรือเชื่อม โยงขยายผลไปสู่เครือข่ายอื่น อีกทั้งสามารถใช้บทเรียนความรู้ที่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะของ องค์กรภาครัฐ ซึ่งด้านนี้แบ่งเป็น 4 องค์ประกอบคือ
    3.1 การพัฒนาการเรียนรู้
    3.2 การนำความรู้สู่นโยบายสาธารณะ
    3.3 การขยายเครือข่าย
    3.4 การเชื่อมโยงการทำงานเครือข่าย
4) ด้านผลประโยชน์ต่อสมาชิก/ชุมชน มีการจัดสรรผลประโยชน์ตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งเครือข่ายให้แก่องค์กร สมาชิกอย่างทั่วถึง เป็นธรรม การรวมตัวเป็นเครือข่ายส่งผลให้เกิดการผนึกพลังในการพิทักษ์ต่อรองผล ประโยชน์ขององค์กรสมาชิกอย่างสร้างสรรค์จนนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่แบ่ง ปันแก่ส่วนรวมเกื้อกูลและไว้วางใจกันระหว่างองค์กรสมาชิก โดยด้านนี้แบ่งเป็น 5 องค์ประกอบคือ
    4.1 การจัดสรรผลประโยชน์
    4.2 การแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิตระหว่างกัน
    4.3 การมีพลังต่อรอง
    4.4 การเกื้อหนุนประโยชน์ต่อชุมชน
    4.5 การจัดสวัสดิการต่อสมาชิก

ประเภทที่ 4  มาตรฐานชุมชน ประกอบด้วย  ลักษณะความเข้มแข็ง 7 ด้าน  21 องค์ประกอบ ได้แก่
1) ด้านเศรษฐกิจชุมชน มี  3  องค์ประกอบ คือ
    1.1 ครัวเรือนสามารถพึ่งตนเองได้
    1.2 การส่งเสริมอาชีพที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน
    1.3 การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามความเหมาะสมของชุมชน
2) ด้านการจัดการทรัพยากรในชุมชน มี 3 องค์ประกอบ คือ
    2.1 การบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม
    2.2 การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมชุมชนที่ดี
    2.3 ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอต่อความต้องการ
3) ด้านสุขภาพอนามัย มี 4 องค์ประกอบ คือ
    3.1 ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสุขภาพจากการมีส่วนร่วมของชุมชน
    3.2 การจัดการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ
    3.3 การป้องกันโรคประจำถิ่น (โรคติดต่อและไม่ติดต่อ)
    3.4 ความสามารถในการดูแลและจัดการด้านสุขภาพได้ด้วยตนเอง
4) ด้านศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี มี 3 องค์ประกอบ คือ
    4.1 การนับถือศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
    4.2 การมีวิถีชีวิตแบ่งปันเอื้ออาทร
    4.3 การอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน
5) ด้านการพัฒนาคนในชุมชน มี 2 องค์ประกอบ คือ
    5.1 การจัดการความรู้ของชุมชน
    5.2 การพัฒนาผู้นำ/สมาชิกในชุมชน
6) ด้านการบริหารจัดการชุมชน มี 4 องค์ประกอบ คือ
    6.1 การจัดการระบบฐานข้อมูลในชุมชน
    6.2 การจัดทำแผนชุมชน
    6.3 การจัดสวัสดิการภายในชุมชน
    6.4 การเสริมสร้างการเมืองการปกครองตามระบบประชาธิปไตย
7) ด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มี 2 องค์ประกอบ คือ
    7.1 การป้องกันรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
    7.2 การป้องกันภัยธรรมชาติโดยชุมชน

กลไกการบริหารจัดการระบบ มชช.

จังหวัดสามารถกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการระบบ มชช.ที่เรียกว่า “คณะกรรมการระบบมาตรฐานงานชุมชนจังหวัด” และ “คณะกรรมการระบบมาตรฐานงานชุมชนอำเภอ”ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่  เช่น
คณะกรรมการฯ มาจากการสรรหา หรือการคัดเลือกของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ในฐานะเจ้าภาพในการดำเนินงาน ซึ่งมีทั้งผู้แทนภาครัฐและภาคประชาชน ภาคเอกชน
คณะกรรมการฯ เป็นกลไกภาคประชาชน หรือเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนที่มีการดำเนินการพัฒนาตามประเด็นงานที่สนใจ หรือภารกิจของเครือข่ายที่ต้องการพัฒนาสมาชิกโดยใช้ระบบ มชช. เช่น  ศอช.จ.  กพสจ. สมาคมอช.ผู้นำอช. ฯลฯ
คณะกรรมการฯ ที่มาจากการผสมผสานรูปแบบที่ 1 และ 2 หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่
อย่างไรก็ตาม  ในปัจจุบันมีผู้นำผ่านการเรียนรู้ ระบบ มชช. มากกว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ  ที่สามารถเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษา หรือเข้ามาเป็นกลไกการบริหารจัดการระบบ มชช.
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ขั้นตอนการดำเนินงาน มชช.
- ขั้นการเตรียมการ  ประกอบด้วย การเตรียมข้อมูล/เนื้อหา  เตรียมตนเอง เตรียมทีมงาน เตรียมงาน
- ขั้นดำเนินการ  ประกอบด้วย การสมัคร การสร้างความเข้าใจ การวิเคราะห์ตนเอง การสร้างการมีส่วนร่วม การสร้างตัวชี้วัด การจัดทำแผนพัฒนาตนเอง และการดำเนินการตามแผน
- ขั้นประเมินผล  ประกอบด้วย การประเมินผลด้วยตนเอง การประเมินผลโดยชุมชน/สมาชิก/คนรอบข้าง และการประเมินผลโดยคณะกรรมการ
- ขั้นยกย่อง เชิดชูเกียรติ   เช่น มอบเข็ม ใบประกาศเกียรติคุณ 
- ขั้นขยายผล เช่น  จัดตั้งเครือข่ายการเรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้ มชช.ต้นแบบ

หมายเหตุ
๑.ใบสมัครเข้าสู่ระบบ มชช. - กรมการพัฒนาชุมชน
๒.ความรู้เรื่อง มชช. - สถาบันการพัฒนาชุมชน - กรมการพัฒนาชุมชน

อ้างถึง: http://www3.cdd.go.th/bothong/home/index.php?option=com_content&view=article&id=25&Itemid=26