Raja Mustafa bin Raja Mamat bin Raja Dollah bin Raja Kaghi
From Jemal (Dynasty), Kedai Lalat, Kota Bharu, Kelantan, Malaysia.
Now he is 86 years-old, he is one of 28 persons of the first generation who have moved to the Legeh Village (Kampong Legeh or Hulu Legeh) and only 3 persons is still alive,
after Legeh dynasty disappeared here or he is 12th generation from first Legeh Dynasty here.
Now the population here around 1,000 persons.
Raja Legeh was left here because of war between Raja Kubang Labu and the soldiers from Kubang Labu attacked and burned the town of Legeh.
So he moved to Che-mae, Waeng District, Narathiwat, Thailand.
And after that he moved to Tanyongmat (Balik Legeh or Hilir Legeh), Rangae District, Narathiwat, Thailand.
And the last one of the Legeh Dynasty was Tuanku Ngah Samsuddin bin Tuanku Abdullah (ต่วนกูเงาะห์ซัมซุดดีน บิน ต่วนกูอับดุลลเลาะห์) moved to Kampong Ta-kot (Berhubong, Connection), Bangnara, Muang Narathiwat, Thailand. He became to “พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณปร ะเทศ วิเศษวังษา (Phraya Bhupha bakdee Srisuwan Pradesh Wisaetwangsa).
---------------------
อำเภอระแงะตามประวัติศาสตร์ เป็นเมืองหนึ่งขึ้นอยู่กับม ณฑลปัตตานี อันเป็นเมืองโบราณตั้งแต่กร ุงสุโขทัยเป็นราชธานี จนกระทั่งถึงรัชสมัยของสมเด ็จพระพุทธเลิศหน้านภาลัยห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุผลทางการเมือง พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้ าฯ ให้พระยาอภัยสงครามกับพระยา สงขลา ( เถียนจ๋อง ) ออกไปทำการแยก เมืองปัตตานีออกเป็นเจ็ดหัว เมือง พร้อมอัญเชญตราตั้ง ออกไปพระราชทานแก่เมืองทั้ง เจ็ด
เรียกว่า "บริเวณ 7 หัวเมือง ได้แก่ อำเภอระแงะ เป็นอำเภอหนึ่งใน 7
หัวเมือง ประกอบด้วยเมืองปัตตานี เมืองยะลา เมืองหนองจิก เมืองรามัน
เมืองสายบุรี เมืองยะหริ่ง เมืองระแงะ โดยมีการแต่งตั้งให้มีผู้ปก ครองแต่ละเมือง เรียกว่าพระยาเมือง
เมืองระแงะจึงย้ายมาอยู่ที่ ตำบลตันหยงมัส และทรงโปรดเล้าฯแต่งตั้งนาย หนิเดะ เป็นพระยาเมืองปกครอง และเมื่อนายหนิเดะได้ถึงแก่ กรรม ตำแหน่งว่างลง จึงทรงโปรดแต่งตั้งให้นายหน ิบอสูเป็นผู้รักษาราชการแทน สืบต่อเนื่องมาจนกระทั่งมีก ารโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนแปลงการปกครอง 7 หัวเมืองโดยให้ขึ้นตรงต่อมณ ฑลนครศรีธรรมราช
พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า พระปิยมหาราชได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตามบรรดา ศักดิ์แก่เจ้าเมืองพระยาระแ งะว่าพระยาภูผาภักดีศรีสุวร รณประเทศวิเศษวังษา และเจ้าเมืองอื่น ๆ ด้วย พ.ศ.2444 ได้ประกาศข้อบังคับสำหรับกา รปกครอง ในการปกครองมอบหมายให้เจ้าเ มืองปกครองดูแล โดยมีกองบัญชาการงานเมือง มีปลัดเมือง ยกกระบัตรผู้ช่วยผู้ว่าราชก ารเมือง โดยมีข้าหลวงใหญ่เป็นผู้ควบ คุมดูแล ตรวจตรา แนะนำ ข้าราชการ และข้าราชการให้ปฏิบัติตามร ะเบียบแบบแผนของราชการส่วนก ลาง โดยยกเลิกการปกครองและตำแหน ่งหน้าที่ราชการในการปกครอง บริเวณ 7 หัวเมือง
พ.ศ. 2450 ได้ย้ายเมืองระแงะ ที่บ้านตันหยงมัสไปตั้งเมือ งขึ้นใหม่ที่บ้านมะนาลอยู่ท ี่ตำบลบางนาค ใช้ชื่อว่า "เมืองบางนรา" ส่วนเมืองระแงะเดิม ได้เปลี่ยนฐานะเป็นอำเภอระแ งะมาจนถึงปัจจุบัน และเมืองบางนราต่อมาก็เปลี่ ยนเป็น จังหวัดนราธิวาส
รายนามของตำแหน่งเจ้าเมืองร ะแงะ
1. นายหนิเดะ พระยาระแงะ
2. นายหนิบอสู พระยาระแงะ
3. นายหวันโน๊ะ พระยาคีรีรัตนไพศาล
4. นายหวันเงาะ พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประ เทศ วิเศษวังษา
From Jemal (Dynasty), Kedai Lalat, Kota Bharu, Kelantan, Malaysia.
Now he is 86 years-old, he is one of 28 persons of the first generation who have moved to the Legeh Village (Kampong Legeh or Hulu Legeh) and only 3 persons is still alive,
after Legeh dynasty disappeared here or he is 12th generation from first Legeh Dynasty here.
Now the population here around 1,000 persons.
Raja Legeh was left here because of war between Raja Kubang Labu and the soldiers from Kubang Labu attacked and burned the town of Legeh.
So he moved to Che-mae, Waeng District, Narathiwat, Thailand.
And after that he moved to Tanyongmat (Balik Legeh or Hilir Legeh), Rangae District, Narathiwat, Thailand.
And the last one of the Legeh Dynasty was Tuanku Ngah Samsuddin bin Tuanku Abdullah (ต่วนกูเงาะห์ซัมซุดดีน บิน ต่วนกูอับดุลลเลาะห์) moved to Kampong Ta-kot (Berhubong, Connection), Bangnara, Muang Narathiwat, Thailand. He became to “พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณปร
---------------------
อำเภอระแงะตามประวัติศาสตร์
เมืองระแงะจึงย้ายมาอยู่ที่
พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
พ.ศ. 2450 ได้ย้ายเมืองระแงะ ที่บ้านตันหยงมัสไปตั้งเมือ
รายนามของตำแหน่งเจ้าเมืองร
1. นายหนิเดะ พระยาระแงะ
2. นายหนิบอสู พระยาระแงะ
3. นายหวันโน๊ะ พระยาคีรีรัตนไพศาล
4. นายหวันเงาะ พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น