ทำเนียบรัฐบาล
26
ก.ค.- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กล่าวว่า
การประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนกับทุกส่วนราชการ วันนี้ (26
ก.ค.)
เพื่อให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันและให้ประชาชนได้รับรู้
เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ประชาคมวัฒนธรรมอาเซียน และประชาคมด้านความมั่นคงและการเมืองอาเซียน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้จัดกลุ่มให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ ประกอบด้วย ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีตนเป็นประธาน ประชาคมวัฒนธรรม มีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบ ประชาคมด้านความมั่นคงและการเมือง มีกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ การพัฒนาด้านระบบโลจิสติกส์ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับทุกหน่วยงาน มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดูแล และการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบเพื่อจัดทำรายละเอียด และแผนงาน ก่อนจะมาประชุมอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคมนี้
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า จะเริ่มใช้ระบบประสานงานข้ามกระทรวงเพราะมีหลายด้านเกี่ยวโยงกัน รวมถึงการประสานกับภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อให้ภาคเอกชนจัดทำแผนข้อเสนอมาให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากนั้นจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ประชาชนรับรู้ เพื่อเตรียมตัวรองรับประชาคมอาเซียน สิ่งสำคัญรัฐบาลมั่นใจว่า จะช่วยสร้างรายได้ค่าครองชีพให้คนไทยมากขึ้น เมื่อมีการเพิ่มทักษะ แรงงาน เพราะยอมรับว่า สิงคโปร์มีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทยถึง 7 เท่า สำหรับการทำงานในรายกระทรวง ต้องมีกรอบดำเนินการเหมือนกัน เช่น กรมศุลกากรจะต้องปรับพิกัดศุลกากรให้เหมือนกับประเทศในอาเซียน เพื่อความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกและการจัดเก็บภาษี ลักษณะดังกล่าว กระทรวงต่าง ๆ จะต้องเร่งดำเนินการตามแผน- สำนักข่าวไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้จัดกลุ่มให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ ประกอบด้วย ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีตนเป็นประธาน ประชาคมวัฒนธรรม มีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบ ประชาคมด้านความมั่นคงและการเมือง มีกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ การพัฒนาด้านระบบโลจิสติกส์ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับทุกหน่วยงาน มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดูแล และการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบเพื่อจัดทำรายละเอียด และแผนงาน ก่อนจะมาประชุมอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคมนี้
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า จะเริ่มใช้ระบบประสานงานข้ามกระทรวงเพราะมีหลายด้านเกี่ยวโยงกัน รวมถึงการประสานกับภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อให้ภาคเอกชนจัดทำแผนข้อเสนอมาให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากนั้นจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ประชาชนรับรู้ เพื่อเตรียมตัวรองรับประชาคมอาเซียน สิ่งสำคัญรัฐบาลมั่นใจว่า จะช่วยสร้างรายได้ค่าครองชีพให้คนไทยมากขึ้น เมื่อมีการเพิ่มทักษะ แรงงาน เพราะยอมรับว่า สิงคโปร์มีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทยถึง 7 เท่า สำหรับการทำงานในรายกระทรวง ต้องมีกรอบดำเนินการเหมือนกัน เช่น กรมศุลกากรจะต้องปรับพิกัดศุลกากรให้เหมือนกับประเทศในอาเซียน เพื่อความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกและการจัดเก็บภาษี ลักษณะดังกล่าว กระทรวงต่าง ๆ จะต้องเร่งดำเนินการตามแผน- สำนักข่าวไทย
ที่มา : สำนักข่าวไทย |
อ้างถึง http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=495741&ch=ec
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น