วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

ชวนย่ำเท้า-ท่องเที่ยว"สุคิริน" เพชรเม็ดงามใน3จว.ชายแดนใต้


วันที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 38 ฉบับที่ 13504 มติชนรายวัน
ชวนย่ำเท้า-ท่องเที่ยว"สุคิริน" เพชรเม็ดงามใน3จว.ชายแดนใต้
รายงาน
โดย กุศลิน สุวรรณโณ
อ.สุคิริน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนราธิวาส พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันและป่าทึบ มีเทือกเขาที่สำคัญ ได้แก่ เทือกเขาตูแว เทือกเขาบาตูกาเตาะ เทือกเขาบาลา มีแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็นสายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงชาวสุคิรินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางเข้าสู่พื้นที่ อ.สุคิริน ปัจจุบันมีความสะดวกสบายมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยาง หากเดินทางมาจากตัวอำเภอสุไหงโก-ลก จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่สำคัญเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบ
ด้วยสภาพพื้นที่ป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และเป็นภูเขาสูงทำให้อากาศภายใน อ.สุคิริน ค่อนข้างเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" และด้วยเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และอัตลักษณ์ประจำถิ่น "ณัฐพงศ์ ศิริชนะ" ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จึงพยายามผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่
"อรุณ ศรีใส" นายอำเภอสุคิริน จึงขานรับในการดำเนินการอย่างเต็มที่ ด้วยการจัดแพคเกจท่องเที่ยวแบบ One Day Trip รวมทั้งการท่องเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อรองรับการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งใน จ.นราธิวาส และจังหวัดข้างเคียง ซึ่งนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างประเทศเริ่มเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กันบ้างแล้ว
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเมื่อมาเยือน อ.สุคิริน คือการไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) และเยี่ยมชมพระตำหนักสุคิริน ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 4 ต.สุคิริน เป็นที่ประทับทรงงานเมื่อครั้งสมเด็จย่ายังทรงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมพสกนิกรและสมาชิกนิคมสร้างตนเองสุคิริน
จากนั้นเดินทางต่อไปยังศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ ตั้งอยู่ที่บ้านโต๊ะโมะ หมู่ 3 ต.ภูเขาทอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสุคิริน และชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพศรัทธา ภายหลังชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกได้อัญเชิญองค์เจ้าแม่โต๊ะโมะจำลองไปประดิษฐาน ณ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
อีกจุดคือเหมืองทองคำโต๊ะโมะ หมู่ 3 ต.ภูเขาทอง นักท่องเที่ยวสามารถลงไปร่อนทองในแม่น้ำที่ไหลลงมาจากเหมือง ซึ่งแม่น้ำทุกสายในพื้นที่ อ.สุคิริน จะมีเกล็ดแร่ทองคำทับถมอยู่ในดินตลอดทั้งสาย ชาวบ้านในพื้นที่จึงนิยมใช้เลียง เครื่องมือร่อนทองที่ทำจากไม้มาขุดหาแร่ทองคำเป็นงานอดิเรก แต่ขึ้นอยู่กับดวงว่าจะพบเกล็ดแร่ทองคำหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีจุดผ่อนปรนภูเขาทอง (ชายแดนไทย-มาเลเซีย) สุดปลายด้ามขวานหลักเขตที่ 65/149 ซึ่งภายในปีนี้จะมีการจัดสร้างหลักเขตขนาดความสูง 2.50 เมตร ให้เป็นจุดถ่ายภาพที่ระลึกพื้นที่รอยต่อระหว่างไทยกับมาเลเซีย ที่ไม่ได้เป็นเส้นทางติดแม่น้ำเหมือนกับ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.ตากใบ โดยในอนาคตอันใกล้นี้จังหวัดนราธิวาสจะเปิดเป็นจุดผ่อนปรนและจัดสร้างตลาดการค้าชายแดน เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย
แล้วไปสัมผัสความชุ่มฉ่ำของน้ำตกธารหินงาม ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.เกียร์ แล้วไปชมน้ำตกศรีทักษิณ กับต้นกระพงยักษ์ ขนาด 29 คนโอบ ในพื้่นที่หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง จากนั้นไปชม "เนินพิศวง" ที่รอท้าพิสูจน์ ว่าภาพที่เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นความมหัศจรรย์ที่ทุกท่านต้องมาสัมผัสด้วยตนเอง
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่อยากนำเสนอ โครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านไอร์ปาโจ เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานที่ดิน 128 ไร่ ให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่ทำการเกษตรเพื่อการบริโภคในครัวเรือนและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลที่อาจเสี่ยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
กลางฟาร์มมีลำธารที่มีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี อนาคตจึงจะปรับพื้นที่และทำการเกษตรแบบครบวงจร ให้เป็นศูนย์กลางการรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของ จ.นราธิวาส
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ นั่นคือกิจกรรมล่องแก่งต้นน้ำสายบุรี ที่หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 ของ "ดรอแม ปินตา" ผู้ใหญ่บ้านบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 อ.สุคิริน ที่ได้ทำธุรกิจล่องแก่งและโฮมสเตย์ในรูปแบบของคณะกรรมการชุมชน มีระยะทางล่องแก่งกว่า 6 กิโลเมตร ในแม่น้ำที่ใสสะอาด มีจุดให้พักเล่นน้ำ 3 จุดท่ามกลางบรรยากาศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ตลอดสองข้างทาง ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมมาท่องเที่ยวด้วยแพคเกจทัวร์ ราคา 650 บาทต่อคน (ที่พัก 1 คืน อาหาร 3 มื้อ และล่องแก่งต้นน้ำสายบุรี) หรือหากจะล่องแก่งพร้อมอาหาร 1 มื้อ สำหรับ One Day Trip จะมีราคา 280 บาทต่อคนเท่านั้น
อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด คือสวนไม้ดอกสุคิริน บนเนื้อที่รวมกว่า 30 ไร่ อยู่ห่างจากโฮมสเตย์หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 ไปเพียง 2 กิโลเมตร ซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้ทุ่มงบประมาณปรับภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจะปลูกดอกไม้เมืองหนาวผสมผสานกับดอกไม้พื้นเมือง รวมทั้งจัดพื้นที่ปลูกชาสุคิริน ล่าสุดได้ปรับหน้าดินและปลูกต้นไม้บางส่วนไปแล้ว
หากใครเบื่อชีวิตที่ต้องนั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ เคร่งเครียดกับภาระมากมายที่แบกรับไว้ หรือในแต่ละวันวุ่นวายกับสังคมออนไลน์ ยังไม่มีโอกาสชาร์จพลังเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต เสาร์-อาทิตย์นี้ลองแวะมาที่ อ.สุคิรินกันเถอะ อากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นเย็นสบายด้วยอุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซียส ผู้คนมีอัธยาศัยที่ดีมีน้ำใจ อาหารพื้นบ้านที่อร่อยและปลอดสารพิษ จะเติมเต็มความสุขด้วยราคาแพคเกจท่องเที่ยวที่สบายกระเป๋าสำหรับทุกคน
ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.สุคิริน สามารถติดต่อผ่านทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส โทร.0-7352-2411 และ 0-7354-2345 โทรสาร (แฟกซ์) 0-7352-2412-3 (กรอบบ่าย)
หน้า 28

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น