วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

Raja Mustafa bin Raja Mamat bin Raja Dollah bin Raja Kaghi




Raja Mustafa bin Raja Mamat bin Raja Dollah bin Raja Kaghi
From Jemal (Dynasty), Kedai Lalat, Kota Bharu, Kelantan, Malaysia.
Now he is 86 years-old, he is one of 28 persons of the first generation who have moved to the Legeh Village (Kampong Legeh or Hulu Legeh) and only 3 persons is still alive,
after Legeh dynasty disappeared here or he is 12th generation from first Legeh Dynasty here.
Now the population here around 1,000 persons.
Raja Legeh was left here because of war between Raja Kubang Labu and the soldiers from Kubang Labu attacked and burned the town of Legeh.
So he moved to Che-mae, Waeng District, Narathiwat, Thailand.
And after that he moved to Tanyongmat (Balik Legeh or Hilir Legeh), Rangae District, Narathiwat, Thailand.
And the last one of the Legeh Dynasty was Tuanku Ngah Samsuddin bin Tuanku Abdullah (ต่วนกูเงาะห์ซัมซุดดีน บิน ต่วนกูอับดุลลเลาะห์) moved to Kampong Ta-kot (Berhubong, Connection), Bangnara, Muang Narathiwat, Thailand. He became to “พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประเทศ วิเศษวังษา (Phraya Bhupha bakdee Srisuwan Pradesh Wisaetwangsa).

---------------------
อำเภอระแงะตามประวัติศาสตร์เป็นเมืองหนึ่งขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี อันเป็นเมืองโบราณตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี จนกระทั่งถึงรัชสมัยของสมเด็จพระพุทธเลิศหน้านภาลัยห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุผลทางการเมือง พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาอภัยสงครามกับพระยาสงขลา ( เถียนจ๋อง ) ออกไปทำการแยก เมืองปัตตานีออกเป็นเจ็ดหัวเมือง พร้อมอัญเชญตราตั้ง ออกไปพระราชทานแก่เมืองทั้งเจ็ด เรียกว่า "บริเวณ 7 หัวเมือง ได้แก่ อำเภอระแงะ เป็นอำเภอหนึ่งใน 7 หัวเมือง ประกอบด้วยเมืองปัตตานี เมืองยะลา เมืองหนองจิก เมืองรามัน เมืองสายบุรี เมืองยะหริ่ง เมืองระแงะ โดยมีการแต่งตั้งให้มีผู้ปกครองแต่ละเมือง เรียกว่าพระยาเมือง

เมืองระแงะจึงย้ายมาอยู่ที่ตำบลตันหยงมัส และทรงโปรดเล้าฯแต่งตั้งนายหนิเดะ เป็นพระยาเมืองปกครอง และเมื่อนายหนิเดะได้ถึงแก่กรรม ตำแหน่งว่างลง จึงทรงโปรดแต่งตั้งให้นายหนิบอสูเป็นผู้รักษาราชการแทนสืบต่อเนื่องมาจนกระทั่งมีการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนแปลงการปกครอง 7 หัวเมืองโดยให้ขึ้นตรงต่อมณฑลนครศรีธรรมราช

พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าพระปิยมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตามบรรดาศักดิ์แก่เจ้าเมืองพระยาระแงะว่าพระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประเทศวิเศษวังษา และเจ้าเมืองอื่น ๆ ด้วย พ.ศ.2444 ได้ประกาศข้อบังคับสำหรับการปกครอง ในการปกครองมอบหมายให้เจ้าเมืองปกครองดูแล โดยมีกองบัญชาการงานเมือง มีปลัดเมือง ยกกระบัตรผู้ช่วยผู้ว่าราชการเมือง โดยมีข้าหลวงใหญ่เป็นผู้ควบคุมดูแล ตรวจตรา แนะนำ ข้าราชการ และข้าราชการให้ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของราชการส่วนกลาง โดยยกเลิกการปกครองและตำแหน่งหน้าที่ราชการในการปกครองบริเวณ 7 หัวเมือง

พ.ศ. 2450 ได้ย้ายเมืองระแงะ ที่บ้านตันหยงมัสไปตั้งเมืองขึ้นใหม่ที่บ้านมะนาลอยู่ที่ตำบลบางนาค ใช้ชื่อว่า "เมืองบางนรา" ส่วนเมืองระแงะเดิม ได้เปลี่ยนฐานะเป็นอำเภอระแงะมาจนถึงปัจจุบัน และเมืองบางนราต่อมาก็เปลี่ยนเป็น จังหวัดนราธิวาส

รายนามของตำแหน่งเจ้าเมืองระแงะ
1. นายหนิเดะ พระยาระแงะ
2. นายหนิบอสู พระยาระแงะ
3. นายหวันโน๊ะ พระยาคีรีรัตนไพศาล
4. นายหวันเงาะ พระยาภูผาภักดีศรีสุวรรณประเทศ วิเศษวังษา
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น